กลายเป็นกระแสสุดเดือดสนั่นวงการพิซซ่า ลุกลามไปไกลจนกลายเป็นดราม่าบนโลกออนไลน์ จากการที่ไม่กี่วันก่อน พิซซ่าคอม. และพิซซ่าฮัท. ได้จัดโปรโมชั่นปะทะกันถาดละไม่เกิด 100 บาท มีทอน และตามมาด้วยมีมของแบรนด์อาหารต่าง ๆ ที่หยิบยกประเด็นตรงนี้มาแซวกันไม่หวาดไม่ไหว
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้คนรักพิซซ่า เกิดความต้องการซื้ออย่างมหาศาล บางคนสั่ง 10 กล่อง บางคน 20 หรือที่พีคกว่านั้นก็มีสั่งกันเป็น 100 กล่อง จนส่งผลให้ลูกค้าเกิดการพูดถึงเรื่องประเด็นของคนรับหิ้ว หรือคนที่เข้ามาซื้อในจำนวนที่มากจนเกินความพอดี และยังมีการส่งข้อความหาทางแบรนด์พิซซ่าทั้งสองเรื่องของการจัดโปรโมชั่นที่โหดเกินไปจนทำให้หลายคนรู้สึกไม่พอใจกับเหตุการณ์นี้
แต่นอกจากกระแสในด้านลบแล้ว ในทางกลับกัน พิซซ่า ก็กลับมาได้รับความนิยมในชั่วข้ามคืน ทำให้เกิดการติดตามกระแสที่แบรนด์พิซซ่าจะจัดในครั้งถัดไป รวมไปถึงเกิดยอดเอนเกจเมนต์ที่มีมากขึ้น และด้วยศึกของร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนนี่เองที่ทำให้ เกิดคำถามและการเปรียบเทียบของแบรนด์พิซซ่าต่างๆ ให้ได้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง
ทำให้วันนี้เราต้องจับประเด็นร้อนนี้ขึ้นมาชวนทุกคนวิเคราะห์กันว่า ความนิยมของธุรกิจประเภทนี้ ที่นอกเหนือจากความอร่อยแล้ว ความประทับใจในการขาย และปัจจัยมากมายมีส่วนในการทำให้ธุรกิจร้านอาหารแฟรนไชส์ประสบความสำเร็จได้หรือไม่
พิซซ่า อาหารที่ใครก็ชอบ
พิซซ่า เป็นอาหารอิตาเลียนที่มีรสชาติถูกปากและถูกใจคนทั่วโลก เป็นหนึ่งในอาหารฟาสฟู้ดที่มีการรังสรรค์รสชาติและหน้าใหม่ๆ ออกมาตลอด ด้วยเอกลักษณ์ที่เป็นทรงกลมถูกตัดแบ่งสามเหลี่ยม มีชีสยืดเยิ้มที่ให้ความรู้สึกน่าทานและกินง่าย ทำให้อาหารประเภทนี้ได้รับความนิยม เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทุกคนชื่นชอบและยังขายได้เรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน ธุรกิจพิซซ่ามีอยู่ทั่วทุกมุมโลก เป็นธุรกิจที่มีการใช้ส่วนผสมน้อยแต่รสชาติความอร่อยกลับดึงดูดใจผู้คนได้ไม่ยาก ทำให้ในประเทศไทยมีธุรกิจพิซซ่าหลายแบรนด์ หลายสาขา และหลายประเภท ทั้งเป็นพิซซ่าแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียงอย่าง Pizza Company , Pizza Hut หรือ Domini’s Pizza และพิซซ่าโฮมเมดที่เป็นอีกทางเลือกให้ลูกค้า พิซซ่าจึงเป็นอีกหนึ่งประเภทร้านอาหารฟาสฟู้ดที่มีการแข่งขันสูงมาตลอด
พิซซ่า เป็นร้านอาหารแรกๆ ที่มีการจัดส่งและมีบริการแบบเดลิเวอรี่ที่ส่งถึงบ้าน มีการจัดโปรโมชั่นที่ปรับเปลี่ยนเอาใจลูกค้าให้ได้ผ่านหูผ่านตากันเสมอ พิซซ่าถือเป็นอาหารอิตาเลี่ยนเจ้าแรกๆ ที่เข้ามาเปิดที่ไทยและมีการขยับขยายสาขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และปัจจุบันก็มีคนทำธุรกิจอีกมากที่หันมาสนใจและศึกษาทำธุรกิจประเภทนี้เพิ่มมากขึ้น เป็นพิซซ่าโฮมเมดที่เป็นอีกทางเลือกในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า
เห็นได้ชัดว่าการเติบโตของธุรกิจพิซซ่าได้รับความนิยมต่อเนื่องและมั่นคง ทำให้ปัจจุบันมีการขายแฟรนไชส์มากขึ้น ด้วยจำนวนที่มากมายนี้เอง ทำให้เกิดการแข่งขันและการทำการตลาดที่เอาใจลูกค้าในทุกช่วงตลอด ทำให้เรามักจะเห็นการจัดโปรโมชั่นที่แข่งขันกันของแบรนด์ต่างๆ อย่างดุเดือด เป็นเหตุให้เกิดการพูดถึงและเพิ่มเอนเกจเมนต์ผ่านตาประจำ
ทำไม Pizza Company , Pizza Hut ถึงเป็นแบรนด์ใหญ่?
จุดเริ่มต้นของทั้ง 2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Pizza Company , Pizza Hut เดิมที่แล้วเคยเป็นแบรนด์เดียวกันมาก่อน จนกระทั่งเกิดความขัดแย้งและปัญหาบางอย่างขึ้น ทำให้ Pizza Company ต้องแยกตัวออกมาจาก Pizza Hut
ปัจจุบันเจ้าของแบรนด์ Pizza Hut อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทที่ดูแลจัดการกิจการและให้สิทธิ์แฟรนไชส์ อย่าง บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เมื่อสาขาทั้งหมดในประเทศไทยถูกเปลี่ยนเป็น Pizza Company ทำให้ในช่วงแรกยังต้องมีการลงทุนและสร้างฐานลูกค้าใหม่จากการเปิดสาขาเพิ่ม แต่ด้วยชื่อเสียงของ Pizza Hut ที่ก็โด่งดังมากในยุโรปอยู่ก่อนแล้ว เมื่อมีการปรับเปลี่ยนร้าน เปิดสาขาใหม่จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียกกระแสและความนิยมให้กลับมาอีกครั้ง
ส่วนแบรนด์ Pizza Company คือ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีแบรนด์ในเครือที่เป็นที่รู้จักมากมายอย่าง Bonchon, Swensen’s, Sizzler, Dairy Queen, Burger King ซึ่งความนิยมและเป็นที่รู้จักของ Pizza Company ก็มีพื้นฐานมาจากที่แต่เดิมมีจำนวนสาขาที่เป็นร้าน Pizza Hut ที่เปิดอยู่แล้ว พอมีการแยกตัว ผู้บริหารจึงปรับเปลี่ยนตัวชื่อร้านและการตกแต่ง ทำให้ฐานลูกค้ามีความมั่นคงจากเดิมที่เคยเป็นลูกค้าของแบรนด์เดิมในประเทศอยู่แล้ว Pizza Company จึงไม่ได้กังวลเรื่องการหาฐานลูกค้าหรือการตั้งต้นใหม่ตั้งแต่แรก แต่ผลักดันให้แบรนด์มีบริการจัดส่งที่ดี โปรโมชั่นโดนใจ รวมไปถึงรสชาติที่เข้าใจลิ้นของคนไทย ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่แข็งแกร่งจนทำให้แบรนด์เติบโตและสร้างความได้เปรียบมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะโปรร้อนแรงอย่างซื้อ 1 แถม 1 ที่เป็นจุดขาย ที่เป็นสโลแกนคุ้มหูและเล่นใหญ่ ทำให้ภายในเวลาไม่นาน ชื่อของ Pizza Company ก็ติดตลาดได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ปัจจุบันการตลาดพิซซ่าที่ได้รับความนิมและคงความมั่นคงทางธุรกิจมาอย่างยาวนานกลับกลายเป็น Pizza Company ซึ่งครองยอดส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึง 70% ขณะที่ Pizza Hut มียอดขายทางการขายอยู่ที่ 20% ซึ่งอาจมีเหตุผลมาจากการทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าที่มากกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคเช่นกัน และสิ่งสำคัญก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการโฆษณาและโปรโมชั่น ที่จะช่วยดึงลูกค้าให้กลับมาสนใจในตัวแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ
เดิมทีผู้บริหารของทั้ง 2 แบรนด์ก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารที่มีชื่อเสียงมากอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่จะทำให้ทั้ง 2 ยักษ์ใหญ่ มีการปะทะกันเรื่องการตลาดอยู่ตลอดจนตั้งแต่ที่เริ่มแยกตัวมาถึงปัจจุบัน แม้แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนก็ยังมีประเด็นร้อนแรงให้ได้พูดถึงกันไม่ขาด และด้วยการเป็นคู่แข่งทางการค้าอย่างต่อเนื่องแบบนี้เองที่ทำให้ พิซซ่า ยังคงเป็นอาหารที่อยู่ในกระแสนิยมและการพูดถึงอยู่เสมอ จะเห็นได้ว่านอกเหนือจากแรงสนับสนุนที่สำคัญแล้ว ความอร่อย รวมถึงการตลาดที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องก็เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นให้เกิดยอดขายและการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจนกลายเป็นแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้
ก่อนทำธุรกิจแฟรนไชส์
กรณีศึกษาที่เกิดขึ้นทำให้หลายแบรนด์แฟรนไชส์เริ่มหันมาใส่ใจทำการตลาดมากขึ้น เพราะนอกจากจะเรียกความสนใจจากอาหารประเภทเดียวกันแล้ว ยังกระตุ้นให้เกิดความนิยมของอาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้ลูกค้าหรือผู้บริโภทได้รับประโยชน์จากการแข่งขันในครั้งนี้ แม้จะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดและเกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง แต่ก็ทำให้กระแสการทานพิซซ่ากลับมาคึกคักกันอีกครั้ง ซึ่งในเชิงธุรกิจประเภทแฟรนไชส์ถือเป็นความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจยังเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
การเลือกซื้อแฟรนไชส์ก่อนการลงทุนจึงต้องศึกษาคู่แข่งและความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ ธุรกิจแฟรนไชส์จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำร้านอาหารอย่างไร หากลองจับเอากระแสความนิยมและศึกษาคู่แข่งดีๆ รวมถึงปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ก็จะช่วยให้การลงทุนในร้านอาหารประเภทแฟรนไชส์กลายเป็นธุรกิจที่อยู่ในสายตาผู้ซื้อและนักลงทุนเรื่อยๆ
ไม่ใช่วงการพิซซ่าเท่านั้น หากทำธุรกิจแล้ว การศึกษาคู่แข่งและการศึกษาด้านการตลาดถือเป็นสิ่งสำคัญที่คนทำธุรกิจต้องใส่ใจเป็นพิเศษ การเริ่มต้นลงทุนทำร้านอาหารที่นอกเหนือจากเรื่องของรสชาติที่เอาไว้ใช้ดึงดูดใจลูกค้า ยังต้องมีการอัพเดตโปรโมชั่นและราคาให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและเข้าถึงอาหารในร้านเสมอ เพราะนอกจากจะทำให้ร้านเติบโตแล้วยังทำให้เกิดการพัฒนาให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
#ResGoal เรายกระดับพื้นที่ร้านอาหาร คาเฟ่ ให้ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์การให้บริการอย่างครอบคลุมแบบ One Stop Service ครบจบในที่เดียวเพราะเราเชื่อว่ามากกว่าความอร่อยคือคุณภาพและเอกลักษณ์เฉพาะของร้านคุณ
อ้างอิง: กรุงเทพธุรกิจ, ลงทุนแมน, Wongnai, Brandinside, Thairath, TodayLine, Prachachat, AmarinTV
Comments